Culture

กว่าจะมาเป็น “หญิง สุธาสินี” เจ้าแห่งประวัติศาสตร์ของปิงปองทีมไทย

เพราะเชื่อเสมอว่าการที่คนคนหนึ่งจะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับอะไรสักอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้เขียนจึงรู้สึกทึ่งและประทับใจทุกครั้งที่เห็นนักกีฬาไทยคนเดิมทำสถิติใหม่ในรายการระดับนานาชาติได้หลายครั้ง อย่างที่ หญิง - สุธาสินี เสวตรบุตร นักกีฬาเทเบิลเทนนิสหรือปิงปองทีมชาติไทย ล่าสุดสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายในศึกเทเบิลเทนนิสชิงแชมป์โลก 2021 ไอทีทีเอฟ เวิลด์ เทเบิลเทนนิส แชมเปียนชิพส์ ทั้งประเภทหญิงเดี่ยวและคู่หญิง และถ้าย้อนหลังกลับไปอีกจะพบว่าเธอยังทำประวัติศาสตร์เข้าถึงรอบ 16 คนสุดท้ายในโอลิมปิก 2020 รวมถึงคว้าเหรียญทองหญิงเดี่ยวในซีเกมส์ปี 2015 ซึ่งเป็นเหรียญทองในรอบ 32 ปีของไทยอีกด้วย 

แน่นอนว่ากว่าจะมาเป็นเจ้าแห่งประวัติศาสตร์แบบนี้ด้วยวัยเพียง 27 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนคงสงสัยว่าเธอเริ่มเดินเส้นทางนี้ได้อย่างไร และต้องผ่านอะไรมาบ้าง EQ ชวนมาหาคำตอบพร้อมกันที่นี่ 

ทั้งชีวิตกับปิงปอง

“ปิงปองมันสนุก เพราะท้าทายในเรื่องความเร็วและความหลากหลายของการหมุนของลูก ทำให้เราต้องเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปพร้อมกับใช้ความคิดตลอดเวลา”

เธอบอกกับเราถึงเหตุผลที่ทำให้เด็กธรรมดาๆ คนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในจังหวัดระนอง หันมาเริ่มเล่นกีฬานี้อย่างจริงจังและออกแข่งขันตั้งแต่อายุ 6 ปี แม้จะได้รางวัลบ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็ยังคงตั้งใจแข่งอย่างไม่ลดละ จนเมื่ออายุ 12 ความพยายามของก็เป็นผล เธอมีโอกาสได้เป็นหนึ่งในฐานะนักกีฬาปิงปองเยาวชนทีมชาติ และต่อมาได้เข้าสู่ทีมชาติชุดใหญ่ด้วยอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น เรียกได้ว่าเกือบทั้งชีวิตของเธอเติบโตมาพร้อมกับปิงปองจริงๆ 

กศน. คือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่

การได้รางวัลต่อเนื่องหลายครั้งตั้งแต่ยังเด็ก เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่ทำให้หญิง สุธาสินีเป็นที่รู้จักในวงการปิงปองไทย และได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ แต่เธอบอกว่าอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทุ่มเทกับการฝึกซ้อมได้เต็มที่คือ การเลือกออกจากระบบการศึกษาภาคปกติ มาสู่การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ตั้งแต่จบชั้นประถม เพราะถ้าวันนั้นเธอไม่ตัดสินใจแบบนี้ ความสำเร็จแบบวันนี้อาจไม่เกิดขึ้น

“ตอนอายุ 12 หญิงได้รางวัลที่ 3 ในรายการเยาวชนชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศญี่ปุ่น รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี และได้ทุนจากสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติไปเข้าเทรนนิ่งแคมป์ที่สวีเดนอยู่พักใหญ่ เลยเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คิดว่าอยากไปให้ไกลกว่านี้ ด้วยการตัดสินใจออกมาเรียนกศน. เพื่อทุ่มเทให้กับการซ้อมมากขึ้น ซึ่งพ่อแม่กับโค้ชก็โอเค เขาสนับสนุนเต็มที่ แต่ตอนนั้นก็มีผู้ใหญ่บางคนไม่เห็นด้วยนะ เขาคงเป็นห่วง เพราะมันไม่เคยมีใครทำมาก่อน หญิงเป็นคนแรกๆ” 

สมมติว่าหลังจากการตัดสินใจครั้งนั้นแล้วมันไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด เรามีแผนอื่นไว้รองรับไหม? “ยอมรับว่าไม่ได้วางแผนไว้เลยว่าจะยังไงต่อ ตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากลงมือทำให้สุดๆ ก่อน ถ้าวันข้างหน้าไปต่อไม่ได้ก็แค่กลับไปเรียนภาคปกติเหมือนเดิม”

หลังจากได้ฟังมุมมองนี้ ในฐานะคนรุ่นเดียวกัน ต้องยอมรับว่าหญิงเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นมาก เพราะในสายตาคนในสังคมส่วนใหญ่มักจะมองว่า คน Gen Y กับการศึกษาในระบบปกติคือของคู่กัน เมื่อไหร่ที่ออกนอกกรอบ เมื่อนั้นจะถูกมองว่าแปลกแยก 

ผลลัพธ์ที่ได้มาคอยย้ำเตือนว่าเธอเลือกไม่ผิด

หลังจากตัดสินใจเลือกออกนอกระบบการศึกษาตามปกติแล้วหันมาซ้อมปิงปองอย่างหนัก ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็ถือว่าหายเหนื่อย เพราะเธอกวาดรางวัลทั้งในประเทศและระดับนานาชาติมานับไม่ถ้วน ช่วยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศมานานนับสิบปี 

“จากวันแรกจนถึงวันนี้ก็รู้สึกว่าหายเหนื่อยนะคะ เพราะตั้งแต่เด็กเราก็ทุ่มเทให้กับกีฬาปิงปองมาตลอด ตอนนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเลยค่ะ แต่ว่ายังอยากไปให้ได้ไกลกว่านี้นะ อยากได้เหรียญโอลิมปิกสักครั้ง ถึงจะรู้ว่ายาก แต่อยากตั้งเป้าหมายไว้ก่อน จะได้พยายามมากขึ้น”

ความรู้สึกหลังทำประวัติศาสตร์ครั้งล่าสุด

“ดีใจที่สามารถสร้างสถิติใหม่ให้ตัวเองได้สำเร็จ และสร้างสถิติใหม่ให้กับวงการปิงปองไทยได้ ความจริงก่อนไปแข่งไม่ได้คาดหวังว่าเราจะเข้าไปถึงรอบ 16 คน เพราะที่ผ่านมาได้แค่รอบ 32 คน เราเป็นประเภทที่เวลาลงแข่งแต่ละครั้งจะโฟกัสอยู่แต่คู่แข่งและแมตช์แข่งปัจจุบันมากกว่ารายการที่ยังมาไม่ถึง เพื่อทำทุกครั้งให้ดีที่สุด ส่วนผลการแข่งขันมันเป็นเรื่องของเกมกีฬา มีแพ้มีชนะ แต่ครั้งนี้ถือว่าทำได้ดีเกินคาดค่ะ”

กว่าจะมาเป็นเจ้าแห่งประวัติศาสตร์

แม้ว่าหญิงจะเป็นนักกีฬามากฝีมือคนหนึ่งของประเทศแล้ว แต่เธอแชร์ว่าไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้จากนักกีฬาคนอื่น ตัวเธอนั้นนับถือรุ่นพี่หลายคนและมักจะนำมาเป็นแบบอย่างที่ดีในชีวิต โดยจะศึกษาดูว่าแต่ละคนมาเป็นนักกีฬาอาชีพได้อย่างไร ต้องพัฒนาหรือเสริมทักษะใดบ้าง เพื่อที่เธอจะได้ตั้งใจฝึกซ้อมและเดินตามรอยพวกเขา

สำหรับปัจจัยอื่นที่ทำให้ประสบความสำเร็จ เธอบอกว่าคือตัวเอง ครอบครัว โค้ช และผู้ให้การสนับสนุนทุกคน “ปัจจัยอันดับแรกหญิงคิดว่าเป็นตัวเอง ที่มีความรับผิดชอบ อดทนพยายามในการฝึกซ้อม เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้มีโอกาสดีๆ ตามมา ต่อมาคือ ผู้ปกครองที่ให้การสนับสนุน โค้ชที่ช่วยพัฒนาเราให้ไปสู่ระดับโลกได้ และสุดท้ายคือผู้ให้การสนับสนุนที่เชื่อใจเรา ถ้าไม่มีเขาเราอาจไปได้ไม่ไกล เพราะทุกการแข่งขันต้องใช้เงินทุน” 

ถ้าวันนี้มีน้องๆ อยากเลือกกศน. บ้างเพื่อทุ่มเทให้กีฬา 

“ถ้าตัดสินใจดีแล้วว่าจะเดินทางสายกีฬาและอยากออกมาเรียนกศน. เหมือนกัน ก็อยากให้ตั้งใจฝึกซ้อมและตั้งใจกับมันให้สุดๆ ไปเลย เพราะถ้าไม่เต็มที่พอ อาจต้องเสียเวลากลับไปเรียนตามปกติ แต่จริงๆ แล้วถ้าอยากซ้อมกีฬาไปด้วย เรียนภาคปกติไปด้วยก็ทำได้เหมือนกัน แค่ต้องแบ่งเวลาให้ดี แต่ยังไงก็อยากให้ปรึกษาผู้ปกครองและโค้ชให้ดีก่อน เพราะวัยประถมถือว่ายังเด็กมาก”

ท้ายสุดเธอยังย้ำอีกว่าถ้าตัดสินใจดีแล้วว่าจะออกนอกระบบก็ทำให้เต็มที่ เพราะการเป็นนักกีฬาอาชีพมันให้อะไรมากกว่าที่คิด นอกจากเรื่องรายได้ ยังมีเรื่องระเบียบวินัย ความอดทน และมีลู่ทางต่อยอดสู่การเรียนระดับมหาวิทยาลัย รวมทั้งประกอบอาชีพอื่นได้ไม่ต่างจากการเรียนในระบบเลย เหมือนกับเธอที่กำลังเรียนต่อในระดับปริญญาโทอยู่ และได้รับราชการตำรวจ 

มุ่งมั่น ตั้งใจ เต็มที่ และมีแรงสนับสนุนจากคนรอบข้าง คือเส้นทางกว่าจะมาเป็นเจ้าแห่งประวัติศาสตร์ของวงการเทเบิลเทนนิสไทยของ หญิง - สุธาสินี เสวตรบุตร ซึ่งผู้เขียนเชื่ออย่างยิ่งว่าหลังจากนี้ ความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมของเธอ จะทำให้มีประวัติศาสตร์บทใหม่เกิดขึ้นมาได้อีก แต่จะเป็นในรายการไหนบ้างนั้น อยากชวนให้ทุกคนส่งกำลังใจให้เธอและมาลุ้นไปด้วยกัน 

ติดตามและอัปเดตผลงานทั้งหมดได้ที่ Suthasini Sawettabut, suthasini_ying994

ขอบคุณรูปภาพจาก Suthasini Sawettabut