Culture

เมื่อครีเอทีฟไดเร็กเตอร์แบรนด์แฟชั่นในเครือ Kering เป็นชาย (ผิวขาว) ทั้งแผง

หลังจาก Sarah Burton (ซาราห์ เบอร์ตัน) ประกาศลาออกจากตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์แบรนด์ Alexander McQueen ได้ไม่นาน บริษัทแม่อย่าง Kering ก็ประกาศชื่อผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทนทันที นั่นก็คือ Sean McGirr (ฌอน แมคเกียร์) ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายเมนส์แวร์ของแบรนด์ JW Anderson มาก่อน

Sarah Burton / Sean McGirr
Sabato de Sarno
Photo Credit: WWD

แต่การเข้ามาทำงานที่ Alexander McQueen ของฌอน แมคเกียร์ ก็มาพร้อมกับดราม่าว่า ทำไมครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์แฟชั่นในเครือ Kering ถึงมีแต่ผู้ชาย (ผิวขาว) โดยก่อนหน้านี้ Sabato de Sarno (ซาบาโต เดอ ซาร์โน) ก็เพิ่งจะเดบิวต์คอลเล็กชั่นแรกในฐานะครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนใหม่ของ Gucci ไป

ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนอื่นๆ ในเครือ Kering

โดยนอกจาก Gucci และ Alexander McQueen ที่เป็นแบรนด์แฟชั่นระดับลักชัวรี่ที่อยู่ภายใต้เบริษัท Kering แล้วยังมี Balenciaga, Bottega Veneta, Brioni และ Saint Laurent ซึ่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายผิวขาวทั้งสิ้น และในช่วงเวลาที่ผ่านมาในการทำงานของทั้ง 6 แบรนด์แฟชั่นในเครือ มีครีเอทีฟไดเร็กเตอร์มาแล้ว 29 คน เป็นผู้หญิงเพียง 6 คน

การที่แต่ก่อนยังมีซาราห์ เบอร์ตัน เป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์หญิงเพียงคนเดียวในแบรนด์ในเครือบริษัทนี้ แล้วต่อมากลายเป็นชายผิวขาวอย่างฌอน แมคเกียร์  ซึ่งทำให้กลายเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ชายล้วนนั้น ก็ทำให้เกิดดราม่าขึ้นมาว่า ทำไมจึงไม่มีความอินคลูซีฟทั้งในเรื่องเพศและสีผิว

Pharrell Wlliams / Ibrahim Kamara / Nigo

ในขณะที่หากมองไปยังบริษัทคู่แข่งอย่าง LVMH จะเห็นว่าในส่วนของแบรนด์แฟชั่นระดับลักชัวรี่ ซึ่งมีทั้ง Berluti, Celine, Christian Dior, Emilio Pucci Fendi, Givenchy, JW Anderson, Kenzo, Loewe, Loro Piana, Louis Vuitton, Marc Jacobs, Off-White, Phoebe Philo, Stella McCartney มีผู้หญิงที่เป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ถึง 5 แบรนด์ และมีชายผิวสีถึง 2 คน คือ ฟาร์เรล วิลเลี่ยมส์ (Pharrell Williams) ที่ Louis Vuitton ฝั่งเสื้อผ้าผู้ชาย และ อิบราฮิม คามารา (Ibrahim Kamara) ที่ Off-White และยังมีผู้ชายเอเชีย คือ นิโกะ (Nigo) ที่ Kenzo อีกด้วย

Photo Credit: @1granary

ประเด็นดราม่านี้ถูกจุดขึ้นโดยอินตาแกรมแอคเคาต์ @1granary ซึ่งเป็นของ Olya Kuryshchuk อดีตนักเรียนแฟชั่นจากเซ็นทรัล เซนต์ มาร์ติน ซึ่งไม่เพียงชี้ถึงประเด็นการที่ Kering มีแต่ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์แบรนด์แฟชั่นที่เป็นผู้ชายทั้งหมดเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นภาพความไม่เท่าเทียมกันในอุตสาหกรรมแฟชั่นด้วยว่าผู้หญิงที่ทำงานในอุตสาหกรรมแฟชั่นหลายคนในระดับตำแหน่งที่เท่าๆ กับ ฌอน แมคเกียร์ ก่อนจะได้รับการโปรโมท ทำงานหนักภายใต้หัวหน้าที่เป็นผู้ชายที่ได้รับเงินเดือนที่สูงกว่า 10 เท่า แล้วเมื่อมีการโปรโมทตำแหน่งใหญ่ๆ กลับกลายเป็นว่าผู้ชายทั้งแผงกุมตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของทั้งบริษัทไว้หมด

นอกจากนั้น Sarah Mower นักเขียนแฟชั่นชื่อดังยังร่วมผสมโรงในประเด็นนี้อีกด้วย โดยการโพสต์ภาพผลงานของดีไซเนอร์หญิงชื่อดังหลายคน ทั้ง Ann Demeulemeester, Isabel Toledo, Sophia Kokosalaki พร้อมตั้งคำถามคล้ายๆ ว่าทำไมดีไซเนอร์หญิงที่มีความสามารถเหล่านี้ถึงไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ระดับโลกได้

และยังมีหลายคนที่ตั้งคำถามต่ออุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งหมดด้วยว่า ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่วงการแฟชั่นโปรโมทสิ่งที่เรียกว่าความเท่าเทียมและความหลากหลายเป็นประเด็นหลัก ทั้งเรื่องเพศ สีผิว เชื้อชาติ ผ่านทั้งการใช้นางแบบนายแบบบนรันเวย์ หรือในการถ่ายแอดโฆษณา แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่โปรโมทนั้นไม่ถูกนำไปใช้ในขั้นของตำแหน่งใหญ่ๆ อย่างครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ ที่กลับกลายเป็นว่าผู้ชายผิวชาวเท่านั้นที่มีโอกาสสูงที่จะได้ครองตำแหน่งนี้

Photo Credit: Fashinza

แต่ใช่ว่าการจุดประกายการดีเบตครั้งในประเด็นนี้จะมีผู้เห็นด้วยกับ Olya Kuryshchuk  ไปทั้งหมด เพราะก็มีหลากหลายความคิดเห็นกล่าวว่า นี่เป็นเรื่องของธุรกิจ ประเด็นเรื่อง Gender Balance อาจจะมีความเหมาะสมในการนำมาพิจารณาหากเป็นในตำแหน่งที่มีผลกระทบเชิงนโยบายและมีสภาพบังคับต่อประชาชนทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างตำแหน่งในหน่วยงานรัฐ หรือบรรดารัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ซึ่ง Gender Balance จะมีประโยชน์ในเชิงการออกนโยบายที่คิดถึงผู้หญิงมากขึ้น เช่น หากมีรัฐมนตรีแรงงานเป็นผู้หญิง ก็อาจจะออกนโยบายที่คำนึงถึงแรงงานทีเป็นผู้หญิงมากขึ้น

แต่ในประเด็นนี้เป็นเรื่องของธุรกิจ แม้ ฌอน แมคเกียร์  จะก้าวขึ้นมาทำงานในฐานะครีเอทีฟไดเร็กเตอร์แบรนด์ Alexander McQueen ซึ่งเป็นแบรนด์ที่โฟกัสไปที่เสื้อผ้าผู้หญิงเป็นหลัก หรือผู้ชายคนใดก็ตามในแบรนด์อื่นๆ แต่หากผลงานที่ออกมาไม่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้หญิงจริงๆ  ผู้หญิงไม่ชื่นชอบงานออกแบบนั้นๆ ไม่ถูกจริต ผู้หญิงเองก็มีทางเลือกที่จะไม่ซื้อ และสามารถหันไปซื้อแบรนด์อื่นๆ ที่มีการออกแบบที่ตรงกับรสนิยมของตัวเองได้ และที่ผ่านมาแบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในงานออกแบบก็มาจากดีไซเนอร์ที่เป็น ‘ชาย’ ก็มี

Photo Credit: The New York Times

แต่ถึงอย่างนั้นก็มีการกล่าวอ้างว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในบริษัท Kering ที่มีแต่ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์แบรนด์แฟชั่นที่เป็นชาย (ผิวชาว) ล้วนในตอนนี้ ก็ขัดกับสิ่งที่ Kering เคยประกาศไว้ก่อนหน้นี้ว่าพร้อมที่จะ "ส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับชายและหญิงในทุกระดับ"

ในขณะที่ทางแบรนด์ Alexander McQueen เองก็ออกมาให้ข้อมูลว่าปัจจุบัน ในบริษัทมีคนทำงานที่เป็นหญิง 63% และอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการ 57% ตำแหน่งคณะกรรมการบริหาร 38% และบอร์ดไดเร็กเตอร์ 40% โดยทางแบรนด์เองก็มีเป้าหมายไปสู่ Gender Balance ให้ได้ภายในปี 2025

อ้างอิง

Forbes

Essence

The Standard UK