https://vimeo.com/377235842
หญิงสาวในมาดนางแบบ กับชายที่เธอแอบหมายปองกำลังยืนอยู่ข้างกันในลิฟท์ สาวเจ้าดูท่าไม่ดี จนกระทั่งชายหนุ่มเดินออกจากลิฟท์ เธอรีบผายลมที่อัดอั้นไว้มานาน แต่ไม่ทันไรผู้ชายคนนั้นก็กลับเข้ามาในลิฟท์อีก …
นี่คือหนึ่งในสามของสถานการณ์อยากแกล้งตายในภาพยนตร์โฆษณาแคมเปญ Midnight Sale ของห้างเซนทรัล เมื่อปี 2019 ผลงานที่ทำให้ผู้กำกับสายโฆษณาดาวรุ่งอย่าง ภิรตี วศินชัย คว้ารางวัล Spikes Asia ด้วยสถานการณ์ตลกแสนสมจริง แต่ห่อหุ้มไปด้วยจริตไฮแฟชั่น ทำให้ “จ๋า” เป็นผู้กำกับที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่เหมือนใครจนอยากหาเวลาไปนั่งคุยกับเธอ
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/64919c07f90579dea27320f0_ja_phiratee-1.jpeg)
ความเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้ถูกนำเสนอ
เมื่อถามว่าอะไรที่ทำให้งานของเธอไม่เหมือนใคร จ๋าบอกว่าผลงานโฆษณาของเธอทุกชิ้นจะแฝงไปด้วยความเป็นผู้หญิง แต่ไม่ใช่ผู้หญิงบนพื้นที่โฆษณาทั่วไป แต่เป็นผู้หญิงแบบมนุษย์ปุถุชนจริงๆ
“ความเป็นมนุษย์จริงๆ เนี่ยแหละที่คนเราพยายามจะเก็บซ่อนมันไว้ เพราะมันดูไม่ดีไม่งาม เราก็จะเอามันออกมา แล้วก็ห่อมันด้วยแฟชั่น พอมารวมกันมันก็จะเป็นรสชาติใหม่ๆ ขึ้นมา เราจะชอบหามุมมองของผู้หญิงที่มากไปกว่าที่เห็นกัน ทั้งด้านที่แอบซ่อน ความน่าอาย หรือความกล้าหาญของผู้หญิง”
https://vimeo.com/344059124
ก่อนหน้าที่เธอจะกลายเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ที่มีผลงานดังออกมาอย่างต่อเนื่อง จ๋าเรียนรู้รสนิยมตัวเองจากการถ่ายภาพยนตร์แฟชั่นและนั่นคือจุดที่เธอได้รวบรวมสไตล์ส่วนตัวที่เล่าเรื่องผ่านตัวละครของผู้หญิง
“เราเริ่มจากการถ่ายเสื้อผ้าก่อน แล้วเราก็เห็นว่าเสื้อผ้ามันสวยได้มากกว่าการถ่ายเฉยๆ การหามุมแบบนี้ แสงแบบนี้ดีกับผ้าชิ้นนี้ ต้องจับมันเคลื่อนไหวแบบนี้ หลังจากนั้นเราก็เริ่มเห็นความ ส๊วยสวย ความหวาน เคลื่อนกล้องยังไงให้ดูหวานมากๆ เล่าเรื่องยังไห้ดูเป็นผู้หญิง”
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/64919c07f90579dea27320db_ja_phiratee-2.jpeg)
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/64919c07f90579dea27320e7_ja_phiratee-3.jpeg)
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/64919c07f90579dea27320e0_ja_phiratee-4.jpeg)
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/64919c07f90579dea2732116_ja_phiratee-5.jpeg)
ไม่เคยอยากเป็นอะไรนอกจากผู้กำกับ
เมื่อถามถึงความทรงจำแรกสุดของการทำงานสร้างสรรค์ เธอนึกขึ้นได้ว่า “ตอนเด็กๆ เราอินโทรเวิร์ทมากและต้องอยู่บ้านคนเดียวบ่อย เพราะแม่เราจะต้องบินไปทำงานต่างประเทศตลอด บางทีเราแกล้งทำเป็นเขียนการ์ด แปะรูป ทำตัวหนังสือให้เละๆ เหมือนเขียนแล้วหลับไป พอแม่มาก็จะปิดไฟ แกล้งทำเป็นหลับ เพื่อเรียกร้องความสนใจ”
“เราจะมีเวลากับแม่แค่เย็นวันศุกร์ ก็จะได้ดูหนังกับแม่ พอดูเสร็จเราก็จะมานั่งคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวในหนัง ศึกษาความเป็นมนุษย์ เรารักโมเม้นต์นั้นมา มันทำให้เรารักการดูหนัง เป็นจุดเริ่มต้นให้เริ่มสนใจทางนี้จริงจัง ถ่ายรูป อะไรแบบนี้”
จ๋าเป็นศิษย์เก่าคณะสถาปัตฯ ภาควิชานิเทศฯ สาขาภาพยนตร์ของมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ที่เธอบอกว่าตัวเองเป็นคนเฉิ่มๆ ท่ามกลางคนเท่ๆ มากมาย เมื่อถามว่าทำไมตอนนั้นถึงเลือกเรียนฟิล์ม เธอแทบไม่ต้องคิดคำตอบเลย
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/64919c07f90579dea27320e4_Ja_10-2048x1365.jpeg)
“พูดตรงๆ เราไม่ได้มองอะไรอื่นเลย มันแรงกล้ามาก พอพูดถึงการเป็นผู้กำกับเราจะก็รู้สึกว่ามันมีพลังบางอย่าง แบบว่านี่แหละคือสิ่งที่เราอยากเป็น ตอนนั้นคิดว่าเป็นแล้วคงเท่เนอะ อยากมีคนมาสัมภาษณ์แบบนี้บ้างว่ะ”
ตอนนี้ในฐานะผู้กำกับโฆษณามืออาชีพเธอมีความเห็นเกี่ยวกับความฝันในวัยเด็กนั้นเปลี่ยนไปว่า
“แต่ตอนนี้มันมีความกดดันเยอะมาก มันทำให้เราปลดล็อคความสามารถใหม่ๆ ออกมาได้ เหมือนเราต้องถือถุงเงินของลูกค้าไว้ ซึ่งมันก็หลายล้าน มันขึ้นอยู่กับเราว่าจะทำอะไรกับมัน จะทำเขาพังไหม จะรุ่งไหม แล้วมันมีคนอื่นๆ อยู่ในโปรเจกต์ด้วย”
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/64919c07f90579dea273211b_ja_phiratee-7.jpeg)
ถึงผู้กำกับในอนาคต
“การเป็นผู้กำกับมันต้องใช้ทุกอย่างเลยนะ ทั้งความสามารถ ความรู้รอบตัว จิตวิทยา เราบอกน้องเสมอว่าจิตวิทยาในการพูด ในการเข้าใจคน เป็นสิ่งสำคัญ พูดยังไงให้ลูกค้าคล้อยตาม บางทีเตรียมเรื่องมาอย่างดี สุดท้ายมันอยู่ที่จุดว่าลูกค้าเข้าใจเราหรือเปล่า ทุกวันนี้ก็ยังเรียนรู้อยู่”
“คนชอบบอกว่า รสนิยมมันสอนกันไม่ได้ แต่เราว่า ถ้าเรารู้ จำ สังเกต เราสามารถทำได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องรู้ จำ สังเกต เสร็จแล้วต้องหาวิธีบิดมาให้เป็นแนวของตัวเองได้หรือไม่”
จ๋าฝากบอกถึงความสำคัญในการเข้าใจมนุษย์ที่ดีจะสร้างผลงานที่คนดูมีอารมณ์ร่วมได้
“วิธีคิดโฆษณาอย่างหนึ่งคือ เราจะทำยังไงให้คนที่ดูงานเรา ไม่ว่าจะเป็นคนแบบไหน ดูโฆษณาเราแล้วรู้สึกชอบ หรืออย่างน้อยขำหึหึก็ยังดี พอดูแล้วเขารู้สึกว่า เฮ้ย! เราก็เป็นแบบนี้ว่ะ พอเรารู้มากขึ้น เราก็จะหยิบพวกนี้ขึ้นมาใช้ในงานมากขึ้น ให้คนมีอารมณ์ร่วมมากขึ้น”
ให้คะแนนตัวเองตอนนี้เต็มสิบเท่าไหร่?
“เต็ม 10 นะ เราจะให้รางวัลตัวเองตลอด “วันนี้ดีแล้ว จ๋าเก่งมาก” เพราะเราเชื่อว่าทุกวันนี้เราต้องได้เรียนรู้อีกไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดแค่ว่าจะต้องทำมันให้ได้อย่างเดียว เราไม่ได้คาดหวังว่าเราจะเป็นคนนี้ คนนั้นในอีกกี่ปี ถ้าเราสนุกกับมันเราก็จะอยู่กับมัน เรียนรู้จากมันได้ ที่เราทำอยู่ทุกวันนี้เราคิดแล้ว พยายามแล้ว”
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/64919c07f90579dea2732111_ja_phiratee-9.jpeg)