ผู้อ่านหลายๆ คนน่าจะเคยรู้สึกเหนื่อยล้าจากการ ‘นอนไม่พอ’ กันมาบ้าง แต่ใครจะไปคิดว่าในปี 2023 ที่ผ่านมา ‘การนอน’ กลายเป็นปัญหาใหญ่ของคนในปัจจุบัน งานวิจัยจาก Calm แอปพลิเคชั่นสำหรับการนอนหลับ และการทำสมาธิ ระบุว่า ในหมู่ชาวอเมริกัน และอังกฤษกว่า 10,000 คน (อายุระหว่าง 18-65 ปี) กว่า 90% รู้สึกเหนื่อยล้า หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่ง 78% ของพวกเขาบอกว่า ประสิทธิภาพในการนอนของพวกเขามีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของพวกเขาด้วย และ 2 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างยังระบุอีกว่า พวกเขาต้องการนอนหลับมากกว่า 7 ชั่วโมงในหนึ่งคืน เพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น แต่มีแค่ 1 ใน 3 เท่านั้นที่ได้นอนอย่างเพียงพอ ซึ่ง 42% ของผู้เข้าร่วมวิจัย ไม่สามารถนอนได้ ถ้าไม่มี ‘ตัวช่วย’ ไม่ว่าจะเป็นยานอนหลับ แอลกอฮอล์ หรือกัญชา
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/65a835bfad72cf800d4190e8_xnKsLxj_Htl2qCMK8c3NGvGRtVeV5hVVfH7jy8ZUYLUcKEqT_dD1CrezPXanzdFC3emlx7tjmww2cX-yw8Jv9LA4Mg1xZtg-X4GFSUUba5RsJwILWJNupBFTPXXqXhGnITdqYA3hay2_mxXXDCc_Up4.jpeg)
ปัญหาการนอนเหล่านี้เอฟเฟกต์ในกลุ่ม Gen Z มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพวกเขากำลังเผชิญกับความเหนื่อยล้าจาก ‘โซเชียลมีเดีย’ ผลสำรวจจาก American Academy of Sleep Medicine พบว่า 93% ของ Gen Z นอนไม่พอ เพราะพวกเขาใช้โซเชียลมีเดียจนเลยเวลานอน ซึ่งมันทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนของพวกเขาลดลง ทั้งที่จริงๆ พวกเขาถูกเรียกว่าอยู่ใน ‘วัยเรียน’ แต่ถ้าจะพูดว่าการให้ความสำคัญกับโลกออนไลน์เหนือการนอนเป็นปัญหาในกลุ่ม Gen Z อย่างเดียวก็คงจะไม่ถูก เพราะจริงๆ กว่า 80% ของผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ในปัจจุบัน กำลังสูญเสียการนอนให้กับการกดไลก์ ไถฟีดอยู่ในโลกออนไลน์
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/65a835bf3d17a7f913d1c7d9_swX2mBdjCjLEQNQa-nFqVBX8XBJAHQaLCx7_O0wEUu0-JF73ISAiPT8bIcYN_ot_szok5onWU9nULhlGBNDs6KSF3ir8FuLNH4Rv8UMdvICsSZUUh-1SL-mD_GDRC8EDoTm1BAz6G2GJxLy2LJ86Kl8.jpeg)
หลากเหตุผลที่คน Gen Z ไม่หลับไม่นอน
มีเหตุผลสารพันที่ทำให้ในแต่ละวันเหล่า Gen Z ไม่ยอมนอน ซึ่ง EQ ก็จะขอยก 3 เหตุผลหลักๆ สำคัญมาคุยกัน ซึ่งก็คือ
- ความน่ากลัวของเทคโนโลยี: เริ่มจากเรื่องง่ายๆ ที่น่าจะเกิดขึ้นกับแทบทุกคนในปัจจุบัน กับปัญหาของ ‘แสงสีฟ้า’ ซึ่งหลายคนน่าจะเคยได้ยินว่ามันทำให้สายตาของเราอ่อนล้า แต่ใครจะรู้ว่าแสงจากหน้าจอเหล่านี้ ยังขัดขวางการผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับอย่าง ‘เมลาโทนิน’ อีกด้วย ซ้ำการใช้โซเชียลมีเดียจนเลยเวลานอนยังรบกวนวงจรการนอนหลับ และการตื่นตามธรรมชาติของร่างกายอีกด้วย ลองคิดดูสิว่าแสงสีฟ้า และเวลานอนที่หายไปจากการสไลด์หน้าจอเสพสารพัดสิ่งในโลกออนไลน์ จะเป็นตัวร้ายกับการนอนของเราแค่ไหน
- เจเนอเรชั่นแห่งความวิตกกังวล: หลายๆ คนคงเคยได้ยินวลีที่ว่า ‘เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย’ ซึ่งความเหนื่อยล้าที่ว่านั้นก็มาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการเรียน การเปรียบเทียบตัวเองกับคนในโลกโซเชียล หรือแม้แต่เรื่องความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ และปัญหาเหล่านี้นี่แหละ คือตัวการที่ทำให้พวกเขาเกิด ‘ความเครียด’ และ ‘สภาวะวิตกกังวล’ ซึ่งเรื่องความเครียด หรือกังวลใจจนนอนไม่หลับคงเป็นเรื่องที่คนส่วนมากเข้าใจได้ และทราบกันดีว่าแค่เรื่องเครียดเล็กๆ ก็ทำให้การผ่อนคลาย และข่มตานอนนั้นยากเย็นขึ้นขนาดไหน นั่นก็หมายถึงวงจรของความเครียด ความกังวล และการนอนไม่หลับได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/65a835bf4b3d563c2f410d2f_TvFkYgpb9RUjrbFaWjFxOaKizyVOBF8QRj-6cWfiHMwGehLEGhpB-u3iLx7UdDuCyPhdZ0EeWF2jdxSKXSBCoRATDJBAoFB8bDdzcj9XcxC2VWDgH06zJ_DEwxNK733K-e7ZsdRnPxN_MV1OQ3k9d5g.jpeg)
- ชีวิตในโลกที่เร่งรีบ และวุ่นวายแบบ 24/7: หลายๆ คนคงคุ้นเคยกับโหมด ‘Always On’ ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆ รุ่นในปัจจุบัน แต่ว่าใครจะไปคิดว่าคนเราทุกวันนี้ก็ต้องมีโหมด Always On นี้ด้วยเช่นกัน เพราะเรากำลังอยู่ในสังคมที่กดดันให้ทุกคนต้องเร่งรีบ และแอคทีฟอยู่ตลอดเวลา ทำให้หลายๆ คนยอมสละการนอนที่มีค่าให้กับ ‘งานที่เรารัก’ ซึ่งหลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินคำว่า ‘Hustle Culture’ หรือวัฒนธรรมคลั่งงาน กันอยู่บ้าง ซึ่งความบ้างานนี้เองก็ทำให้คนยอมละลายเส้นแบ่งของงาน โลกโซเชียล และชีวิตส่วนตัวปนเปเข้าหากัน แน่นอนว่าเวลาของการนอนก็ละลายหายไปด้วยเช่นกัน เพราะโลกนี้รันด้วย ‘เงิน’
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/65a835bfac0d79fa24689463_ejKc-j21-4_qU9HqE3rZ7UF-P4JlO0PkEQUEtqvdzugfZf17TdQDTjEbGjrkCqHDKoHSrkC_ZUR3wRQgVUwgoaiVzDic80Z0hyNkw1HqHyzzVOgZWCSgN5M7z7k8mKIKtj69CRLfJcUtKvRdup5rPzA.jpeg)
เมื่อไม่ยอมนอน ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา
แน่นอนว่าในระหว่างการนอน ร่างกายของคนเราจะได้รับการซ่อมแซมเพื่อให้กลับมาสดชื่น และแข็งแรง และนี่คือผลกระทบที่คนไม่ยอมนอนจะต้องยอมรับ
- สุดท้ายต้องกลายเป็นคนอ่อนแอ: อย่างที่เรารู้กันว่าในขณะที่เรานอนหลับ ร่างกายของเรายังคงทำงานอยู่ แต่การทำงานเหล่านั้นคือการฟื้นฟูให้ร่างกายของเราแข็งแรง ดังนั้น การที่เราไม่นอน เราก็ต้องยอมรับว่า ระบบภูมิคุ้มกันของเราจะอ่อนแอลง, ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วน โรคหัวใจ และหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้น, รวมไปถึงสุขภาพจิตก็จะเริ่มเกิดปัญหาด้วย
- ไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่จิตใจก็อ่อนแอด้วย: แน่นอนว่าปัญหาการนอนหลับนั้นไม่ได้นำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บทางร่างกาย แต่ปัญหาสุขภาพจิตทั้งหลายก็ยังเพ่งเล็งมาหาอีกด้วย เริ่มตั้งแต่ อาการสมาธิสั้น โฟกัสอะไรได้ยากขึ้น, ความทรงจำเริ่มมีปัญหา, ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี สุดท้ายก็นำมาสู่ภาวะวิตกกังวล และซึมเศร้าในที่สุด
- ปัญหาการเรียน และการงาน: เมื่อร่างกายอ่อนแอลง สุขภาพจิตก็ย่ำแย่ แน่นอนว่าประสิทธิภาพในการเรียน และการทำงานย่อมถดถอยลงไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไหนจะเกรดตก ทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร อีกทั้งความคิดสร้างสรรค์ก็ลดลง รวมไปถึงทักษะในการแก้ไขปัญหาด้วยเช่นกัน
เพียงเท่านี้เราก็น่าจะเข้าใจแล้วว่า เรื่องการนอนไม่ใช่แค่เรื่องทั่วไป แต่มันคือเรื่องที่ ‘จำเป็น’
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/65a835bfd9b9dc0a17168c43_D0TYOGO3Wc-BcVXoMsN-dTkDlbLwxWvgpG_q5_IQQrAQg8ujSeoLt6F-rDvErOTuEFcfkh8MwyBNzOIb93GkFIZEgCkg973AK3PXfrvOk_mmbdIcAG1BD3EwOxMtRbaDh3L40YPqkWaBXSh3_0C7j3g.jpeg)
ได้เวลาเอนตัวลงนอน(อย่างมีประสิทธิภาพ)
ในเมื่อการนอนเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะฉะนั้นเราก็ควรจะทำให้มันมีประสิทธิภาพด้วย ซึ่งเราก็มีเคล็ดลับที่จะทำให้การนอนของทุกคนมีประสิทธิภาพมากขึ้นมาฝากด้วย
- จัดการกับเทคโนโลยีตัวร้าย: เชื่อว่าในสถานการณ์ปัจจุบันของโลก เราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้เทคโนโลยี เพราะฉะนั้นเราก็ควรจะรับมือกับมัน และมีสติในการใช้มันมากขึ้น เริ่มจากการจำกัดเวลาในการจ้องหน้าจอให้เหมาะสม (ซึ่งไม่ใช่เวลาก่อนที่เราจะเข้านอนแน่ๆ), ลองปรับให้ห้องนอนของเราเป็น ‘Device-free Zone’ ดูก็ไม่เสียหาย, และสุดท้ายอย่าลืมให้ความสำคัญกับแกดเจ็ตในการป้องกันเราจากแสงสีฟ้าด้วย
- ทำใจให้สงบที่สุดก่อนจะนอน: แน่นอนว่าจิตใจที่ไม่สงบจะทำให้ประสิทธิภาพของการนอนลดลง ดังนั้นการฝึกเทคนิคต่างๆ ที่ช่วยให้ผ่อนคลายก่อนการนอนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ (ซึ่งในปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ทำออกมาช่วยเรื่องนี้โดยเฉพาะ) ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสมาธิ หรือการกำหนดลมหายใจก่อนเข้านอน, การสร้างกิจวัตรการนอนที่สงบทั้งเสียง ความมืด และเครื่องนอนต่างๆ, รวมถึงต้องปรับกิจวัตรการดื่มกาแฟ และแอลกอฮอล์ด้วย
- ให้ความสำคัญกับสุขภาวะในการนอน: สุดท้ายแล้วจะมีอะไรดีไปกว่าการปรับนิสัยในการนอนให้เหมาะสม และทำให้เป็นกิจวัตร ไม่ว่าจะเป็นการนอนให้เป็นเวลา, ปรับบรรยากาศในการนอนให้เหมาะสม ทั้งความมืด เสียงรบกวน และอุณหภูมิ, อย่าลืมที่จะเลี่ยงอาหารมื้อหนักๆ และการออกกำลังกายในช่วงเวลาใกล้ๆ กับเวลานอน
- ผู้เชี่ยวชาญช่วยได้: แน่นอนว่าปัญหาการนอนคือ ปัญหาเรื่องสุขภาพ ดังนั้น ถ้าเรารู้ตัว แต่ไม่รู้ว่าจะจัดการ หรือรับมือกับมันอย่างไร ลองหันไปปรึกษาแพทย์ หรือนักบำบัดดูก็ไม่เสียหาย ซ้ำเรายังได้รับคำแนะนำ และการรักษาที่เหมาะสมกับอาการ และความต้องการของเราอีกด้วย
![](https://cdn.prod.website-files.com/649174dcab676e52a64ce81a/65a8363fd9a39d663e3797e8_Gen%20Z%27s%20Sleep%20Problems_06.jpg)
สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อเราเจอกับปัญหา เราต้องรู้ตัวว่าปัญหาที่เราเจอคืออะไร เพราะเมื่อเรามีสติ และตระหนักรู้สิ่งที่เราเจออยู่ เราจะรู้ว่าเราควรจัดการกับมันอย่างไร หรือควรรับคำปรึกษาจากใคร แต่ที่แน่ๆ เราต้องระลึกไว้เสมอว่า การนอน ไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ เรื่องลักชูรี่ หรือกำไรชีวิต แต่มันคือ สิ่งที่ ‘จำเป็น’ ในชีวิตของเรา เพราะฉะนั้นอย่าลืม Catch some Zzz’s!