Daily Pickup

Scrapbook: การจดจำเส้นทางของชีวิตที่มากกว่าเขียนลงสมุด

กลิ่นอาย Y2K ยังไม่หมดกับการกลับมาของ Scrapbooks การบันทึกความทรงจำที่ให้อะไรได้มากกว่าการจดลงสมุดเฉยๆ เหมือนกับเทรนด์อื่นๆที่เรายังเห็นในช่วงที่ผ่านมา นี้เป็นอีก 1 เทรนด์ที่เริ่มในช่วงโควิด แถมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Meangirls The Musical ได้เข้าฉายและดึงเอา Burnbook กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งบนโลกโซเชียลมีเดียทำให้เทรนด์นี้กลับมาเป็นที่นิยมอย่างมาก 

Scrapbook เป็นงานอดิเรกที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมและจัดเรียงรูปถ่าย, ตัดกระดาษสี, ป้ายชื่อ, และอื่นๆ ลงในอัลบั้ม สมุด หรือหนังสือเพื่อบันทึกความทรงจำและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ทั้งในชีวิต และรอบตัวของผู้ทำ การทำ Scrapbook มักจะใช้วัสดุต่างๆ เช่น กระดาษแต่งลวดลาย, สติกเกอร์, ป้ายแท็ก, และวัสดุอื่นๆ ทำให้สไตล์ของแต่ละคนก็จะมีความส่วนตัวมากๆ แต่การทำ Scrapbook นี้ไม่เพียงแต่ช่วยเก็บรักษาความทรงจำได้อย่างสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่ดีในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาทักษะศิลปะ รวมถึงการฝึกสมาธิจนหลายคนมองมามันเป็นการบำบัดอย่างนึงอีกด้วย

โดยเทรนด์นี้เป็นอีกเทรนด์ที่เคยโตมากๆ ในช่วงปี 2000s ทำให้เมื่อหลายปีก่อน Scrapbooks เคยถูกมองว่าเป็นสื่อที่อาจจะเก่า หรือเชย หรือไม่ทันสมัยแล้วแต่ตอนนี้ด้วยเทคโนโลยี และการเข้าถึงวัสดุต่างๆ ได้ง่ายขึ้นมากๆ ทำให้ตอนนี้คนสนใจในกระแสนี้มีไอเดีย หนทาง และช่องทางมากมายในการทำ Scrapbooks นี้ให้ง่ายขึ้น 

ปล่อยพลังอาร์ตติส

การทำ Scrapbook ให้โอกาสในการใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะศิลปะ เช่น การออกแบบ, การเลือกสี, และการจัดวาง ซึ่งสามารถสร้างความพึงพอใจและความภูมิใจให้กับผู้ทำ จากพื้นฐานของมันที่เป็นงานรูปแบบเดียวกันกับเทคนิคทางงานศิลปะที่เรียกว่า Collage หรือการตัดภาพมาแปะทับซ้อนเรียงกันเพื่อความสวยงาม และความหมายที่ต้องการจะสื่อ เพียงจุดต่างของทั้งสองงานนี้คือการที่ Scrapbook เป็นงานที่พึ่งความหมายของความทรงจำมากกว่างานแสดงออกถึงความหมายเชิงศิลปะแบบ Collage แล้วตอนนี้หลายๆ แบรนด์เครื่องเขียน และแบรนด์อินดี้ ได้ออกชิ้นงานกระดาษ สติกเกอร์ อุปกรณ์ ต่างๆ เพื่อการทำ  Scrapbook โดยเฉพาะเพื่อให้คนทำได้ออกแบบหน้าบันทึกของตัวเองได้อย่างไม่ต้องกลับว่าจะออกมาสวยไม่สวย

ความทรงจำที่มากกว่าเสียงแจ้งเตือน

การสร้าง Scrapbook ช่วยให้คนทำสามารถเก็บรักษาความทรงจำและเหตุการณ์สำคัญได้อย่างสร้างสรรค์ และมีความเป็นส่วนตัวสูง โดยเฉพาะความทรงจำในช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิต อย่างเช่น วันเกิด งานแต่งงาน หรือการเดินทาง โดยส่วนนี้เป็นส่วนที่ทุกวันนี้ถูกทดแทนด้วยการถ่ายภาพจากมือถือ หรือการอัปเดตบนโซเชียลมีเดียที่ทุกวันนี้หลายๆ โซเชียลเองก็มีฟีเจอร์การเตือนความจำจากปีที่แล้วมันทำให้ผู้คนสนใจความทรงจำจริงๆ น้อยลงซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อสุขภาพจิตทำให้หลายคนหันมาบันทึกความทรงจำลงสื่อที่มีการจับต้องได้มากขึ้นแบบ Scrapbook

วิธีบำบัดกับโลกที่เปลี่ยนไป

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าหลายคนหันมาทำ Scrapbook เพราะเรื่องสุขภาพจิตซึ่ง เหมือนกับการถักโครเชต์ การทำงานฝีมือแบบนี้สามารถช่วยลดความเครียด และส่งเสริมความรู้สึกผ่อนคลาย เนื่องจากต้องใช้ความตั้งใจ และสมาธิในการสร้างผลงาน แต่ที่สำคัญคือการใช้เวลาอยู่กับตัวเอง การทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต การคิดถึงการกระทำ และสิ่งที่ตัวเองทำ หรือเจออยู่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือการที่ชีวิตของคนทุกวันนี้ที่เดินไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับ Internet ทำให้หลายคนรู้สึกเหนื่อยกับมัน อะไรที่ทำให้ชีวิตช้าลงได้จึงกลับมาเป็นส่วนนึงของชีวิตมากขึ้น จากการกลับมาของเทคโนโลยีแบบ Analog ความสนใจในแผ่นเสียง หรือกล้องเก่า Scrapbook เลยเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำให้คนรุ่นใหม่ได้พักสมอง และร่างกาย ไปในตัว

โลกยุคใหม่ที่ไม่ได้จดแค่ลงสมุด

เพราะการเข้าถึงที่ง่ายขึ้น การพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้การเข้าถึงวัสดุ และแรงบันดาลใจในการทำ Scrapbook ง่ายขึ้นตามไปด้วย ผู้คนสามารถซื้อเครื่องมือและวัสดุต่างๆ ออนไลน์ การดูวิดีโอวิธีการเริ่มทำงาน หาแรงบันดาลใจ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงเครื่องมือที่ตอนนี้การมีไอแพด หรือคอมพิวเตอร์ เพื่อการศึกษาเป็นเรื่องกว้างขวางมากขึ้นทำให้หลายคนหันไปสนใจการทำ Digital Scrapbook บทเครื่องมือเหล่านี้มากขึ้นด้วยเช่นกันแอบ Canva ที่เสนอเครื่องมือการทำงานกราฟฟิกง่ายๆ กับคนที่เพิ่งเริ่มจับงานแนวนี้ หรือ Procreate ที่ให้อิสระในการตัด แปะ วาด เขียน ต่อผู้ใช้งาน หรือแม้กระทั่ง Apple เองที่เปิดตัวแอปฯ ใหม่ชื่อ “Journal” ที่ช่วยดึงเอาข้อมูลของเราที่อยู่บนฐานข้อมูลมารวมเป็นการจดบันทึกชีวิตของเราไว้ได้ด้วย

ถึงแม้ว่าตัวเทรนด์จะดูเงียบๆ ช้าๆ  แต่ตัว #Scrapbook บน TikTok มีมากกว่า 300,000 ผู้ใช้งานในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พร้อมกับยอดวิวของ Creators หลายๆ คนรวมถึง Creators ไทยที่หันมาจับสมุดบันทึก หรือไอแพด จนทะลุล้านวิว รวมถึงในโซเชียลมีเดียอื่นๆ ด้วยธรรมชาติของงานที่มีความสวยงาม และการสื่อสารเรื่องราวเป็นหลัก ทำให้จริงๆ แล้วการเติบโตของเทรดน์นี้ในยุคออนไลน์ถือว่าสมเหตุสมผลกว่าที่คิด

แม้กระแสจะเปลี่ยนไปเท่าไหร่ ไหนจะวิธีการทำ ขั้นตอนงาน หรือตัวสื่อที่ใช้จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา การทำ Scapbook ก็ยังคงซึ่งความสำคัญเกี่ยวความทรงจำของผู้ทำไว้อย่างดี ทำให้คนมองเห็นความสำคัญของการใช้เวลากับตัวเอง ปล่อยให้ตัวเองได้การศึกษา ทำความเข้าใจ และเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองในโลกที่วุ่นวายจนบางครั้งเราเองก็ลืมว่าเราทำอะไรอยู่ 

อ้างอิง

altenew

katiethecreativelady

digitalscrapbook

scrapsoffive