Life

รับจ้างมูเตลู? เปิดคอมมูนิตี้แห่งความเชื่อ และการขอพร ไปกับ ‘Desirposter1565’

สังคมในปัจจุบันมีปัญหามากมายให้เผชิญไม่เว้นวัน ซึ่งเราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ในวันที่ไม่สบายใจ มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกจะหันไปหา ‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์’ เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ สิ่งที่ทำได้ก็มีตั้งแต่การสวดมนต์ ขอพร ทำสมาธิ แต่ก็มีอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในเหล่า ‘สายมูฯ’ นั่นก็คือ การถวายของบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะในช่วงหลังๆ ที่เทรนด์การบูชาเทพฝั่งฮินดูเริ่มมีมากขึ้นในสังคม

แต่ใครจะไปคิดว่า ทุกวันนี้เราจะสามารถมูเตลูได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยบริการ ‘รับฝากถวายของบูชา’ อีกหนึ่งอาชีพสายบริการที่เอาใจคนรักการมูฯ วันนี้ EQ เลยอยากชวนทุกคนมาคุยกับ ‘โบว์’ แห่ง Desirposter1565แอ็กเคานต์รับฝากถวายของบูชาที่มีผู้ติดตามกว่า 3 หมื่นคน! มาดูกันว่าการทำอาชีพในสายมูฯ จะเป็นอย่างไร ถ้าพร้อมสำรวจคอมมูนิตี้แห่งความเชื่อนี้กันแล้ว ก็ไปคุยกันเลย

จุดเริ่มต้นของบริการสายมูฯ

โบว์เล่าให้เราฟังว่า ครอบครัวของเธอเปิดแผงขายชุดใส่บาตรเช้าในตลาดอยู่แล้ว ตั้งแต่เด็กๆ เธอจะได้เห็นคนที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ และออกมาทำบุญตอนเช้าไม่ทัน จนเกิดเป็นพฤติกรรมหนึ่ง นั่นก็คือ ‘การฝากถวายของใส่บาตร’

“พระท่านจะอยู่บิณฑบาตรถึงแค่ 8 โมงเช้า แล้วก็กลับวัด จะมีคนที่เขาออกมาไม่ทันพระ หรือว่าเจอพระแต่เขาต้องรีบไปทำงาน เขาก็มาจ่ายเงินไว้ แล้วเขาก็บอกว่า ฝากใส่บาตรหน่อย” โบว์เล่า

พอได้เห็นภาพแบบนี้อยู่เรื่อยๆ บวกกับเธอเป็นคนที่ไปทำบุญถวายของบูชาเป็นประจำอยู่แล้ว โบว์จึงเกิดไอเดียที่จะรับฝากถวายของบูชาผ่านช่องทางออนไลน์ และได้เริ่มใช้แอ็กเคานต์ ‘Desirposter1565’ ที่เธอใช้ขายของออนไลน์ โพสต์รับฝากถวายของบูชาเป็นครั้งแรก

“เราอยู่ใกล้ห้วยขวาง ก็จะไปบ่อยอยู่แล้ว เราก็เลยเปิดรับฝากถวายรอบแรก ที่เทวาลัยพระพิฆเณศ เป็นแค่พวงมาลัยดาวเรือง 40 บาท ราคาเท่าที่ตลาดเลย” เจ้าของ Desirposter1565 เล่าถึงการรับฝากถวายครั้งแรก

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว ที่โบว์ใช้แอ็กเคานต์ Desirposter ให้บริการกับเหล่าคนที่มีความเชื่อ ซึ่งเราก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เธอเห็นอะไรในวัฒนธรรมสายมู ถึงได้จับมันมาทำเป็นอาชีพ

เพราะคนต้องการ ‘ที่พึ่งทางใจ’ จึงเกิดเป็นบริการฝากถวายจาก Desirposter1565

“ถามว่าทำจริงจังไหม จริงจังนะ ทั้งการเลือกของถวาย การเลือกสถานที่ตามฤกษ์มงคล แต่ถ้าในมุมของอาชีพ ก็ยังไม่ได้เป็นอาชีพหลัก ยังมีงานประจำอยู่ค่ะ” 

โบว์บอกกับเราว่า เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำสิ่งนี้เป็นรายได้หลักอยู่แล้ว เพียงแค่เธอไปถวายของบูชาบ่อยๆ จึงอยากเปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีเวลา หรือไม่สะดวกได้ทำด้วย ก่อนจะพูดต่อว่า บางรอบฝากถวายเธอก็ไม่ได้รับส่วนต่างใดๆ หรืออาจจะขาดทุนบ้างเสียด้วยซ้ำ 

“เราขายเท่ากับราคาตลาดเลย หลังๆ ที่ซื้อเยอะหน่อยเขาก็ลดราคาให้ ก็ได้ตรงนั้นแหละมาเป็นส่วนต่าง แต่บางทีมันก็มีค่ารถ แล้วเวลาเราไป เราก็หยอดตู้บริจาค บางทีมันก็ขาดทุนเพราะว่าราคาดอกไม้มันขึ้น อย่างเรารู้ตัวว่า เราจะไปวันศุกร์ วันจันทร์เราก็สั่งดอกไม้ไว้ เขาบอกว่า 80 บาท แต่พอวันพฤหัสเขาโทรมาบอกว่า เอ้ย พี่ลืมไป วันศุกร์เป็นวันมาฆะ ราคาก็เด้งขึ้นมาเลย เราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะว่า เราก็ไม่ได้ยากขึ้นราคาลูกค้า”

สิ่งหนึ่งที่โบว์ได้เห็นจากการรับฝากถวายคือ ในปัจจุบันคนต้องการ ‘ที่พึ่งทางจิตใจ’ มากขึ้น และการได้ฝากถวาย ได้ขอพร ก็เป็นสิ่งที่เสริมสร้างกำลังใจ ให้คนเราสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกินคาดเดาในชีวิตได้ นี่จึงเป็นสาเหตุให้โบว์ ตัดสินใจรับฝากถวาย เพื่อสร้างพื้นที่ทางใจให้กับใครหลายๆ คน

“ถึงการกระทำบางอย่างมันจะย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว แต่เขาก็ยังได้สบายใจขึ้นบ้าง” 

แม้ว่าจะขาดทุนบ้าง เสมอตัวบ้าง แต่โบว์ก็ยังคงเปิดพื้นที่แห่งการมูเตลูนี้อย่างต่อเนื่องมาตลอด 2 ปี ซึ่งก็ทำให้มีคนไว้ใจ และเลือกที่จะเข้ามาใช้บริการกับเธอเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ 

คนใช้บริการที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ในเวลา 2 ปี

ในช่วงแรกของการรับฝากถวาย โบว์เล่าว่า จำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการก็มีมากถึงประมาณ 50-60 คน โดยเจ้าตัวมองว่า ตนเปิดรับฝากถวายในช่วงวันพระแรกของปีใหม่พอดี และด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย จึงทำให้บริการของ Desirposter1565 มีความน่าสนใจ เราเลยสงสัยว่า แล้วช่วงไหนที่เธอรู้สึกว่าเป็นจุดที่ทำให้คนรู้จักบริการของเธอเยอะขึ้น โบว์ได้ตอบกับเราว่า

“น่าจะเป็นครั้งแรกที่รับฝากถวายหลวงพ่อทันใจ ที่วัดพระธาตุดอยคำ ในเชียงใหม่ รอบนั้นมีคนฝากถวายเยอะ น่าจะเกือบร้อยคน เป็นช่วงเดียวกับที่โบว์ไปไหว้พระพิฆเนศ ที่วัดป่าแดด ในเชียงใหม่ด้วย เหมือนกลับมาก็รู้สึกว่าอะไรๆ มันง่ายขึ้น มีคนมาติดตามมากขึ้น มีคนมาสนใจมากขึ้น”

เธอบอกกับเราอีกว่า การฝากถวายในช่วงหลังๆ มานี้ ก็มียอดผู้ใช้บริการต่อรอบเพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าตัว จากหลักสิบ สู่หลักร้อยคน ซึ่งโบว์ยังบอกกับเราอีกด้วยว่า หากใครที่อยากขอพร แต่ไม่สะดวกจ่ายเงินฝากถวาย ก็สามารถฝากชื่อ และคำขอพรมาให้เธอได้ เพราะเจ้าตัวยินดีที่จะเอ่ยชื่อ และคำอธิษฐานให้ในพิธีเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ Desirposter1565 จึงไม่ใช่แค่พื้นที่ของคนที่ไม่มีเวลา หรือไม่สะดวกไปถวายของเองเท่านั้น แต่โบว์เปลี่ยนมันให้กลายเป็นคอมมูนิตี้ของคนที่มีความเชื่อ และอยากมูฯ อีกทั้งเธอยังแชร์ทริค หรือความรู้ต่างๆ เอาไว้ในเพจอีกด้วย จนทำให้ในปัจจุบันแอ็กเคานต์ของโบว์มียอดผู้ติดตามทะลุ 35,000 คนเลยทีเดียว

จากร้านรับพรีออเดอร์ยอดฟอลฯ หลักพัน สู่คอมมูนิตี้สายมูฯ ผู้ติดตาม 35k

โบว์บอกกับเราว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยอดผู้ติดตาม Desirposter1565 เพิ่มขึ้นเร็วมาก เมื่อเทียบกับช่วงที่เป็นแอ็กเคานต์ขายของทั่วไป ซึ่งในปัจจุบัน Desirposter ไม่ได้เพียงแค่รับฝากถวายเท่านั้น เพราะโบว์ยังใช้พื้นที่ตรงนี้แชร์เทคนิคการขอพร ความรู้เรื่องเทพ และการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนตอนนี้เธอมองว่า มันเป็นเหมือนพื้นที่ของเพื่อนๆ ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์สายมูฯ กันไปแล้ว

“บางคนเขาสอบติด เขาก็รีบมาบอกเราคนแรกเลย มาบอกว่าดีใจมาก ขอบคุณมากเลยนะ”

เจ้าตัวเล่าให้เราฟังว่า ทริคที่เธอนำมาแชร์ในคอมมูนิตี้นี้ช่วงแรกๆ มาจากองค์ความรู้ที่เธอเองได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับหมอดู หรือคนในวงการสายมูฯ จนกระทั่งช่วงหลังๆ มานี้เธอเริ่มศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเอง และนำมาสรุปย่อในแบบที่เข้าใจง่ายให้เพื่อนๆ ได้อ่าน

“หลังๆ ก็หาความรู้เพิ่ม ก็ดูจากทั้งหนังสือ ทั้งในเน็ต แต่ส่วนมากที่ไปอ่านมา เราก็จะมาย่อ เน้นให้มือใหม่เขาเข้าใจง่ายมากขึ้น อย่างบทสวดมนต์ เราก็แนะนำบทที่สั้นๆ ไปก่อน ให้เขาได้เริ่มลองสวด พอเขาเข้าใจแล้ว เราก็ค่อยๆ เล่าว่า มันมีบทที่ยาวกว่านี้นะ ก็ค่อยๆ เพิ่มเติมไป” 

หรือแม้แต่วิธีการถวายของบูชา เธอก็ยังนำมาปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากข้าวของมากมายที่ระบุจำเพาะเจาะจง เธอก็แนะนำว่า จริงๆ แล้ว เตรียมของบูชาตามกำลังก็เพียงพอ ขอแค่ไม่ใช่ของที่ขัดต่อความเชื่อทางศาสนาก็ถวายได้แล้ว 

“อย่างธูปกำยาน ตามตำราจะต้องรอจนหมดแท่งแล้วถึงจะเก็บของ ลาของได้ เราก็ย้ำเขาว่า พอเรามาทำเอง ถ้าจะออกไปข้างนอกธูปยังไม่หมดก็ขอให้ดับเถอะ เดี๋ยวมันจะไฟไหม้ (หัวเราะ) ส่วนเทียน ถ้าไม่สะดวกจุดก็ไม่ต้องจุดก็ได้ เพราะว่ามันก็ค่อนข้างอันตราย ให้เขามาปรับให้มันเข้ากับวิถีชีวิตเขามากกว่า”

จากการพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความรู้กับเหล่าฟอลโลเวอร์อย่างเข้าใจง่าย ก็ทำให้ Desirposter1565 กลายเป็นชุมชนสายมูฯ ที่พร้อมส่งพลังบวก และความสบายใจ ผ่าน #บูชาเทพbyDesirposter และการรีวิวใน #ฝากถวายbyDesirposter ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นภาพของคอมมูนิตี้ที่โบว์ได้สร้างขึ้นมา

พื้นที่แห่งพลังบวก ความสบายใจ และการให้

โบว์บอกว่าตลอดระยะเวลาที่ทำอาชีพนี้มา เธอได้รับพลังงานบวกมากมายจากการรีวิวของลูกค้า ซึ่งก็มีทั้งที่เห็นผลทางใจ และเห็นผลแบบจับต้องได้

“บางคนที่ฝากถวายแล้วเขาถูกหวยเลย ถูกลอตเตอรี่เลยก็มี ได้งานหลังจากที่ฝากถวายก็มี หรือว่าสอบติดเลยก็ยังมี แต่ว่าเราจะไม่ค่อยเอาตรงนั้นมาโปรโมท จะเน้นคนที่เขาได้ฝากถวายแล้วสบายใจมากกว่า เราไม่ได้อยากให้ลูกค้าเห็นว่า เฮ้ย คนนี้ถูกหวย ฉันไปฝากบ้างดีกว่า ฉันจะได้ถูกหวยเหมือนคนนั้น เราอยากให้เขามาฝากถวายเพราะว่าเขาสบายใจที่จะฝากมากกว่า”

โบว์ยังย้ำกับเราอีกด้วยว่า เธอต้องการเน้นให้คนมีกำลังใจมากกว่าที่จะไปคาดหวังอยากได้เหมือนคนอื่นๆ แต่นอกจากการเป็นพื้นที่รวบรวมพลังงานบวกแล้ว โบว์ยังสร้างให้ Desirposter เป็นพื้นที่แห่งการให้อีกด้วย

ในแต่ละครั้งของการฝากถวาย เราจะเห็นได้ว่า ในชุดฝากถวายจะมีทั้งของกิน ของใช้หลากหลายรูปแบบ แล้วแต่องค์เทพที่ทำการบูชาในฤกษ์นั้นๆ โดยสิ่งหนึ่งที่โบว์ตั้งใจทำมาตลอดคือ การสนับสนุนผู้ค้ารายย่อย เช่น การซื้อขนมจากร้านของชำแทนร้านสะดวกซื้อ หรือซื้อนมเย็นจากร้านรถเข็น เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน เป็นต้น นอกจากนี้เธอยังนำของกินที่ผ่านการทำพิธีแล้วไปบริจาคต่อ เพื่อไม่ให้เกิดเป็นขยะเหลือทิ้ง

“อยากจะเน้นไปที่การลดปริมาณขยะ เพราะว่าเราเห็นของที่คนเอาไปถวาย เหลือทิ้งเยอะมาก ส่วนมากจะเป็นพวกน้ำดื่มที่เปิดขวดแล้วเอาหลอดปัก ตามความเชื่อมันก็ถูกนะ แต่ว่าเราก็จะบอกลูกค้าเลยว่า เราขอไม่เปิดขวดนะ เพราะอายุการเก็บมันจะลดลง เขาก็เข้าใจ ดีใจที่เอาไปแจกต่อ หรืออย่างถวายเครื่องสำอางพระแม่ลักษมี เราก็เก็บกลับมาทั้งหมดเลย แล้วส่งต่อให้มูลนิธิ เหมือนเขาได้ถวายด้วย แล้วได้บริจาคอีกต่อด้วย”

พรที่สำเร็จเริ่มต้นจาก ‘ความเชื่อ’

หลังจากที่คุยกันมาได้สักพักหนึ่ง เราก็เริ่มเกิดความสงสัยว่า การฝากถวาย กับการไปถวายเองนั้นแตกต่างกันอย่างไร? ซึ่งโบว์ก็ตอบเรามาว่า จริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรต่างกัน เพียงแค่คนที่ไม่สะดวกไปถวายด้วยตัวเองก็สามารถใช้บริการให้คนไปถวาย และบอกกล่าวคำขอพรแทนได้ โดยเจ้าตัวบอกกับเราชัดเจนว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการขอพร ไม่ใช่ของถวายที่แพงที่สุด หรือของถวายครบเซ็ตตามตำรา แต่เป็น ‘ความเชื่อ’ ซึ่งเธอยอมรับว่า ตัวเองเป็นคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องการมูเตลูมากแบบ 100%

“ถ้าไม่มีความศรัทธา ต่อให้ไปที่เทวาลัยเอง ในฤกษ์ที่ดีที่สุด ถวายของแพงที่สุด มันก็ไม่เกิดผลอะไร แต่ถ้าเราศรัทธา อยู่ไกลแค่ไหนก็เหมือนได้ไปขอพรเอง” 

โบว์เล่าต่อว่า เธอเคยเห็นบางคนถวายแค่น้ำเปล่าขวดเดียว กับดอกบัวเท่าที่เขาหาได้ แต่เขาไปด้วยความเชื่อมั่น พรที่ขอก็สามารถสำเร็จได้ แค่ไปเพราะอยากไปจริงๆ ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ หรือท้าทาย เราเลยถามโบว์ต่อว่า เคยเจอคนที่ขอพรขัดกับความเชื่อของเธอบ้างไหม? แน่นอนว่าคำตอบคือ ‘มีอยู่เรื่อยๆ’

โดยคำขอพรเหล่านั้นก็จะเป็น คำขอที่เกินตัว หรือเกินจำเป็น เช่น ขอให้ถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง เพื่อจะนำไปจ่ายค่าเทอม หรือค่าเช่าบ้าน ซึ่งเธอมองว่า จำนวนเงินที่ขอ กับความต้องการใช้เงินนั้น ‘ไม่สัมพันธ์กัน’ อีกรูปแบบหนึ่งคือ การขอพรให้ใครคนใดคนหนึ่งมารัก มาชอบ หรือขอให้แฟนเก่ากลับมา คำขอแบบนี้เจ้าตัวก็ไม่แนะนำ เพราะเธอมองว่า การขอพรไม่ได้มีไว้เพื่อบังคับ ขืนใจ หรือเปลี่ยนใจใคร ก่อนจะอธิบายต่อว่า หากเจอลูกค้าที่ระบุคำขอพรในทำนองนี้ เธอก็จะแนะนำให้ปรับแก้ให้พอดี เช่น ขอให้ได้เงินมาจากการทำงาน ในจำนวนที่ต้องการ แทนการเสี่ยงโชค หรือขอให้ได้พบคนที่ดี คนที่ใช่ แทนที่จะยึดติดที่ตัวบุคคล เป็นต้น

สุดท้ายแล้วการขอพร หรือการบูชาสิ่งใดก็ตาม เป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้มีความสงบ สบายใจ ดังนั้นควรที่จะใช้วิจารณญาณทุกครั้งก่อนตัดสินใจทำสิ่งใดๆ และทุกการกระทำควรอยู่ในความพอดี ไม่มากเกินไปจนตัวเอง และผู้อื่นเดือดร้อน

แน่นอนว่าก่อนจากกัน เราก็ไม่ลืมที่จะขอทริคในการถวายของบูชา และการขอพรจาก Desirposter มาฝากชาว EQ ด้วย

Desirposter1565 Tips

  1. มีเป้าหมายในการขอพรที่ชัดเจน ไม่ขอกว้างๆ หรือขอส่งๆ
    ในการขอพรแต่ละครั้งเป็นเหมือนการย้ำเตือนให้เราวางแผนในชีวิตของตัวเอง ดังนั้น เราจะต้องมีเป้าหมายในหัวว่า เราต้องการอะไร ถ้าได้สิ่งนั้นแล้วจะทำอย่างไรต่อไป เช่น ข