
คงไม่แปลกอะไร หากในยุคนี้เราจะเห็นคนหลายๆ คน ออกมาประกาศตัวเป็นผู้ใช้กัญชา สนับสนุนการใช้กัญชาในรูปแบบต่างๆ ภาพจำของผู้ใช้กัญชาของใครหลายคนในยุคก่อนคงเป็นภาพหนุ่มๆ ราสต้า มาดเซอร์ รักอิสระ ซึ่งมักพบเจอแถวข้าวสาร ชายหาด หรือหน้าราม ในยุคต่อมา เรามักเห็นตาม Mv เพลง Hiphop ที่หนุ่มๆ มักปรากฏตัวออกมาพร้อมควัน ในเสื้อผ้าราคาแพง เครื่องประดับ bling bling ขับรถซุปเปอร์คาร์ นัวเนียกับสาวๆ นุ่งบิกินี่ โดยหนุ่มๆ ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ งัดกัญชาพันลำมวนโตมาจุดโชว์ความเมาความเก๋ากันจนชินตา
แต่ทำไมภาพจำเรื่องกัญชาของเราถึงมีแต่ผู้ชาย? ทั้งๆ ที่ผู้ใช้กัญชาในชีวิตจริงเรามีทุกเพศทุกวัย แต่ทำไมภาพสาวๆ ใช้กัญชาจึงยังดูไม่ค่อยคุ้นชินตานัก ในขณะที่สังคมเรามองภาพผู้ชายสูบกัญชาเป็นเรื่องปกติ ในบางครั้งยังสื่อถึงการขบถ และต่อต้านระบบ ให้ดูเท่ไปอีกต่างหาก .แต่พอเป็นภาพผู้หญิงกับกัญชามันกลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ออกจะดูผิดที่ ผิดทาง หรือแทบจะนึกภาพไม่ออกด้วยซ้ำ ในเมื่อกัญชาคือพืชจากธรรมชาติที่กำเนิดเกิดขึ้นมาเพื่อเราทุกคน ไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง
เราจะนำทุกคนไปสำรวจตัวตนและมุมมองของผู้หญิงในแวดวงกัญชา ผ่าน 2 สาว 2 สไตล์คือ

คุณอุ๊บอิ๊บ - ภาวิกา อินทรทัต เด็กสาวที่โตมาจากครอบครัวทหาร ผู้ก่อตั้ง Ganjita & Co. แบรนด์ Accessory เกี่ยวกับกัญชาที่ดีไซด์ออกมาสีสันสดใสน่าใช้งาน สาวๆ พกพาใช้งานได้อย่างไม่เคอะเขิน ฉีกภาพจำเดิมๆ ของสินค้ากลุ่มนี้ที่มักนำเสนอความเป็นกัญชาจ๋าๆ ออกมานอกหน้า

พี่ต้อม - ญาศิตา สมบัติรักษ์ Single mom ที่ลูกๆ กำลังเข้าสู่วัยรุ่น โปรดิวส์เซอร์และแอดมินของ”เพจพันธุ์บุรีรัมย์”หนึ่งในเพจแนวหน้าวงการกัญชาไทย ซึ่งเคยจัดงานมหกรรมกัญชาและผลิตซีรีส์สารคดีการเดินทางตามหากัญชาสายพันธุ์ท้องถิ่นทั่วประเทศไทย…




เริ่มต้นเข้าสู่วงการกัญชาได้ยังไง?
พี่ต้อม: ก่อนเข้าวงการกัญชาพี่ต้อมธุรกิจส่วนตัวหลายอย่างทั้งเสื้อผ้า การ์เม้นต์ ร้านอาหาร ฯลฯ จนได้มาทำเพจพันธุ์บุรีรัมย์เนี่ยหล่ะ มันเลยทำให้เราได้เข้ามาในวังวนของกัญชาเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตอนสมัยนั้นกัญชายังยังเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง เวลาพูดถึงเล๊ว เลว (หัวเราะ)
ทีนี้ทางคุณแนน (ชิดชนก ชิดชอบ) ผู้บริหารเพจที่เพิ่งเรียนจบมาจากเมืองนอกค่อนข้างจะชื่นชมในสายพันธุ์กัญชาไทย พอกลับมาเนี่ยเขาก็อยากจะทำสารคดีตัวนึงที่เกี่ยวกับตามล่าหาสายพันธุ์กัญชาไทยที่หายไป มันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่เราเนี่ยได้เริ่มที่จะทำสารคดีตัวนี้ จะได้พอเข้ามาตรงนี้ก็ได้พบปะกับกลุ่มคนมากมายทั้งหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมวิชาการเกษตรและพันธุ์พืช แล้วก็นักวิจัยโรงพยาบาลต่างๆ โรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับแพทย์แผนไทย กลุ่มใต้ดินและบนดิน ต่างๆ ได้เป็นประโยชน์ของกัญชาในมิติต่างๆ ก็เลยเป็นที่มาของคำว่าพืชมหัศจรรย์ ตอนแรกเราก็ไม่รู้นะว่ามันมหัศจรรย์ขนาดไหนจนได้เข้ามาสัมผัสกับมัน เรารู้สึกว่ามันใช้คำว่าพืชมหัศจรรย์ได้จริงๆ นะ แม่* โคตรมหัศจรรย์เลย

อุ๊บอิ๊บ: อุ๊บอิ๊บ เป็นเจ้าของแบรนด์ Ganjita and co. ค่ะ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ขาย accessories สำหรับกัญชาแบบ grinder, rolling tray กระดาษม้วน ต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เราออกแบบเอง วัตถุดิบทั้งหมดเป็น eco friendly เป็น bio degradable ค่ะ เริ่มทำเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2564 ค่ะ ก็คือว่าเราก็เป็นสายนี้อยู่แล้ว สำหรับการสูบแบบทั่วๆ ไป ทำไมกระดาษต้องมีรูปใบกัญชา ลายแต่ละอย่างก็โคตรแมน เราก็คุยกะเพื่อนผู้หญิงว่าทำไมเราไม่มีอะไรน่ารักๆ ให้ใช้เลย เลยเริ่มทำจากสิ่งที่เราอยากได้ แบบพวกกระดาษลายๆ กระดาษมีกลิ่น ไปป์น่ารักๆ พกแล้วดูน่ารัก มีสไตล์ ดูเก๋ เคยมองว่าอุปกรณ์ที่ใช้มันสามารถเอามาแต่งบ้านได้ด้วย ยังเคยคุยกับแฟน ทำไมมันไม่มีใครทำขายในตลาดเลย เพราะแบบที่เราชอบก็มีแต่เฉพาะที่อยู่เมืองนอก ก็เลยคิดเป็นโปรเจกต์ขึ้นมาเพราะเห็นช่องทางการขาย แล้วก็ลองศึกษาแล้ว ก็เริ่มคุยกับเพื่อน เริ่มมองหาพาร์เนอร์เลยได้ตัวนี้ขึ้นมา


แล้วเริ่มใช้กัญชากับตัวเองได้ยังไง?
พี่ต้อม: คือเริ่มต้นพี่ต้อมเองนอนไม่หลับเรื้อรังมา 20 ปี คิดสภาพว่านอนไม่หลับติดต่อกัน 3 วัน แต่ยังต้องใช้สมองทำงานตั้งแต่เช้า มันเป็นอะไรที่ทรมานมาก และเป็นทั้งตัวพี่ต้อมเองแล้วก็ลูกชาย พอเข้าวงการกัญชาก็รู้จักแพทย์แผนไทย พี่เขาแนะนำว่าถ้าได้ใช้การดรอปน้ำมันกัญชา มันจะทำให้เรารู้สึกหลับลึกขึ้นแล้วก็ไม่มีสารตกค้างเพราะว่าเป็นพี่ไม่ค่อยชอบใช้เคมีในการรักษา พอมีแพทย์แนะนำก็เลยลองใช้ด้วยตัวเอง ด้วยการดรอปน้ำมัน เรื่องการสูบเนี่ยไม่ค่อยสันทัด จากนั้นก็มีการใช้เพื่อที่จะเทส จนรู้สึกว่าเออมันดีจังเลยอ่ะ ถ้าถามในเรื่องของสันทนาการรู้สึกว่ามันดีกว่าการดื่มไวน์ ดื่มเหล้าอีกนะ

อุ๊บอิ๊บ: เดี๋ยวต้องขอเท้าความก่อนว่า เป็นคนปวดประจำเดือนมาก ต้องกินยาแก้ปวดตลอดเวลา ซึ่งเราก็เหมือนเคยพูดกับแม่ว่า เนี่ยเคยอ่านเจอว่าให้ถ้าเกิดกิน cbd ที่ทำมาจากกัญชาหรือแบบสูบกัญชาบางตัว บางพันธุ์ที่มันจะช่วยเรื่องการปวดท้องอ่ะมันมีนะ ก็เลยคิดว่าจะลอง เขาก็ห่วงว่าแล้วเอาเข้ามาได้หรอ? มันไม่ผิดอะไรเหรอ? ซึ่งตอนนั้นมันก็ผิดอยู่ แต่ว่าเพื่อนเดินทางไปอเมริกา เราก็ขอให้ซื้อมาให้หน่อยได้ไหม เพราะไม่อยากกินยาแก้ปวดตลอดเวลา เราก็มีก้อนเนื้อที่ต้องผ่าตัด เลยต้องพยายามจะหาทางว่าทำยังไงดีที่มันแบบใช้สารเคมีให้น้อยลง

ใช้กัญชาครั้งแรก อาการมันเป็นยังไง?
พี่ต้อม: เริ่มจากการ drop ก่อน เพื่อที่จะให้ตัวเองได้หลับ ตอนนั้นยังจับประเด็นไม่ได้เพราะว่ามันต้องใช้เวลาในการดูดซึมๆ จนกว่ามันจะรู้สึกว่ามันมีอาการอะไรใช้เวลาประมาณ 20 นาทีนะกว่าจะออกฤทธิ์ ก็รู้สึกว่า เฮ้ย มัน มัน มันเหมือนว่าทุกอย่างมันเบา หัวเบา แต่เราก็ต้องวางทุกสิ่งอย่าง กับสื่อรอบรอบตัวเหมือนกันนะ เช่น ทีวี หรือมือถือเราก็จะไม่แตะต้องมัน แล้วก็จะโฟกัสกับสิ่งที่เรากำลังจะนอนแล้วก็การเปิดเพลงช่วย หาเพลงที่เป็นเพลงบรรเลงเพลงชั้นเดียว เพลงที่มันมีความสุขมากๆ แล้วมันก็รู้สึกผ่อนคลายได้แบบ amazing คือตัวเองก็ไม่เคยเจอโมเม้นต์นี้เหมือนกัน ร่างกายเรามีความรู้สึกว่าเราพร้อมจะพักผ่อนแล้วเราก็รู้สึกสบายผ่อนคลาย คอบ่าไหล่รู้สึกว่าสบายจังเลย ตัวเบาๆ ลอยๆ แล้วก็หลับไปเลย ก่อนหน้านั้นก็เคยใช้ยาช่วยในการนอนหลับ มันก็ใช้ได้แต่ว่ามันไม่รู้สึกแบบนี้ เราได้พักผ่อนแล้วตื่นขึ้นมา ร่างกายเรามันสดชื่น พร้อมทำงาน ไม่มีอาการแฮงค์หรืออะไรเลย

อุ๊บอิ๊บ: ก่อนใช้จิงจังก็เคยใช้มาก่อนหน้านั้น ก็ปกติเด็กมหาลัยอะเนาะ เหมือนแบบเห็นเพื่อนดูด แล้วก็อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงวะ มันสนุกยังไงหรือ มันเมายังไง ตอนแรกไม่ได้ดูดบ้อง ดูดเป็น joints ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนอะไรประมาณเนี้ยอ่ะค่ะ แล้วก็แบบนั้นมันคือเด็กน้อย เราก็ไม่ได้คิดถึงประโยชน์มันหรอก มันก็ตลกดี อะไรเนี่ยขำๆ แค่ลอง ไม่ได้เป็นสิ่งที่ต้องมีติดบ้าน
ตอนเปิดตัวว่าตัวเองใช้กัญชา ครอบครัวว่าไงบ้าง?
อุ๊บอิ๊บ: คือเรามองกัญชาเป็นยาเสพติดไหม ก็มองเหมือนสังคมทั่วไปมอง คือมองว่าเป็นยาเสพติดไหม ก็ยาเสพติด แต่เราไม่ได้คิดว่ารู้สึกว่ามันร้ายแรง เพราะว่าเราเห็นคุณพ่อสูบบุหรี่มา แล้วเราก็รู้ว่าคุณพ่อสูบกัญชา ตั้งแต่เด็กๆ แล้วเค้าเป็นทหารในความรู้สึกเราก็เป็นแบบ in general ก็แค่สูบกัญชา พ่อก็ยังทำงานปกติ ก็ยังทำอะไรได้ แต่ก็แค่ว่าต้องไม่บอกใครว่าเขาทำอย่างนี้ แต่เราไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่เหลือเกินที่คนคนนี้สูบกัญชา คือที่บ้านเราค่อนข้าง open เวลาเรากินเหล้า เราก็กินกับที่บ้าน เรากินเหล้าครั้งแรกเราก็กินกับพ่อกับแม่อะไรอย่างเนี้ย คือพ่อแม่ก็บอกว่าไม่ควรเล่นยานะ แต่ไม่ถึงกับว่า “เธอ! นี่มันผิดกฎหมายนะ! เธออย่าทำอย่างนี้เด็ดขาดนะ!!!” อะไรแบบนี้
อาจจะโชคดีเพราะว่าเพื่อนที่คบหรือหรือสังคมที่อยู่ ไม่ค่อยตัดสินใคร แล้วก็ไม่เคยเจอคนมาเจาะจงหรือก้าวร้าวใส่ว่าเป็นผู้หญิงทำไมดูดกัญชา มันดูไม่ดีเลยเนี่ย คือถ้าเป็นอย่างนั้นคือควรว่าตั้งแต่ดูดบุหรี่แล้วป่ะ คือถ้าเจอแบบนั้นเราคงด่ากลับไปแล้วว่า ปอดกู กูอยากทำอะไรก็เรื่องของกู...
ส่วนสำหรับครอบครัว คือก่อนหน้านี้เราไม่ได้ออกตัวแรงว่าฉันเป็นคนสายเขียว เราสูบกัญชานะ แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธหมาย ถ้าถามก็คือบอกว่าเออสูบ แต่ว่าไม่ได้เป็นแบบว่า”ฉันเป็นคนดูดกัญชา” แต่หลังจากที่เรามีปัญหาต้องผ่าตัดซี๊ด เราก็เริ่มค่อนข้าง เปิดเผยว่าเราใช้สิ่งนี้และเราเชื่อว่ามันไม่ผิด แม้ถึงจะยังผิดกฎหมาย แต่ด้วยคุณสมบัติทางการแพทย์เราใช้เพื่อรักษา ซึ่งผู้ใหญ่ เพื่อนคุณแม่เขาก็ยังมีความงงๆ ว่าทำไมถึงประกาศตัว แต่โชคดีที่คุณแม่เข้าใจเรา และชี้แจงไปว่าเราศึกษามา และสิ่งที่เราทำตอนนี้ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายด้วย

พี่ต้อมครับแล้วลูกพี่รู้มั้ย ว่าแม่เค้าเองใช้กัญชา?
พี่ต้อม: “รู้ค่ะ! รู้ว่ามีพบแพทย์ รู้ว่ามีการใช้ รู้ด้วยว่าอันนี้คืออะไร.. ก็มีการคุยกันในบ้านตลอดเวลา อย่างที่บ้านเนี่ยมีกัญชาเหมือนมีพาราเซตามอล ไม่รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งแปลกปลอมเลย”
แล้วเพื่อนๆ ลูก มีมาแซวลูกเราบ้างไหม ว่าแม่นายใช้กัญชาเหรอ อะไรแบบเนี่ยมีบ้างไหมครับ?
พี่ต้อม: ไม่มีนะ เขาบอกว่าพี่เป็น”ฮีโร่” นะ 555 คือถ้าเค้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกัญชา เขาก็จะถามมันเลย อยากรู้อะไร ถามคุยกัน แชร์กันได้หมด ลูกเพื่อนก็แชร์มา เวลาลูกเพื่อนมาก็มาคุยกันเรื่องกัญชา มีใครอยากรู้เรื่องกัญชาก็มาแชร์กันในมุมบวกนะ ในมุมลบเราก็สอน ในฐานะที่เราเป็นแม่นะ เราจะมองไปในทิศทางเดียวกัน

แล้วผู้ปกครองท่านอื่นหล่ะครับ มีเคืองเราไหม แบบ อะไรเนี่ย..ทำไมมาสอนลูกฉันใช้กัญชา?
พี่ต้อม: ก็ยังไม่เคยเจอนะ คือถ้าประเภทของผู้ปกครองที่เขาคุยกันคนละภาษา เราก็ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับเขาอยู่แล้ว เรามีความรู้สึกว่าเราเคารพเรื่องสิทธิส่วนบุคคล เพราะฉะนั้น สำหรับเราในเรื่องเกี่ยวกับการใช้กัญชาก็เป็นเรื่องของเราเช่นกัน…
คิดว่าสังคมไทยมองผู้หญิงกับกัญชาว่ายังไง
อุ๊บอิ๊บ: เขาก็ยังไม่ยอมรับหรอก คือมันก็ดูเป็นสิ่งที่ไกลตัวเพราะว่าเขามันถูกปลูกฝังมาว่าอันนี้คือสิ่งผิดกฎหมายเพราะนโยบาย war on drug ทั้งๆ ที่เราใช้กัญชาในประเทศเรามาตลอด ภาพวาดในผนังวัดก็มี มันคือยาสมุนไพรไทยอะ คุณต้องหยุดความคิดเซ็ทเดิมอะ แล้วมาบอกว่ามันไม่ดีอะ คุณต้องหาความรู้ใหม่ ๆ ศึกษาประวัติศาสตร์ใหม่ ศึกษางานวิจัยใหม่ๆ แต่อุ๊บอิ๊บคิดว่าก็ยังยาก เพราะมันถูกปลูกฝังมานาน แต่พอเราชูโรงเรื่อง medical คนก็ยอมรับมากขึ้น แต่คงจะเปลี่ยนทันทีทันใดไม่ได้ แต่ทำให้คนยอมรับมากขึ้น แต่เรื่องสันทนาการคงต้องรอกันไปอีกสักพัก แต่ถ้าดูดเพื่อคลายเคลียด เพื่อรักษาโรคบางอย่างเราว่าเค้ายอมรับได้แต่อาจต้องรอสักพักนึง แล้วถ้าเขามองกัญชาไม่ดี เราว่า ผู้หญิงกับกัญชาเขาคงโดนมองหนักกว่าเดิมแหละ..... แต่ถ้าเกิดเจอใครมาว่าเรา เราก็คงพูดดีๆ แหล่ะ คงบอกว่า มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลของเรา
เราไม่ทำให้คุณเดือดร้อน อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ไปพ่นควันใส่หน้าคุณ....

ติดตามและอัปเดตเรื่องกัญชาได้ที่ PanBuriram พันธุ์บุรีรัมย์, Ganjita and co.